นโยบายความเป็นส่วนตัว

ข้อกำหนดและเงื่อนไข

1.ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลทั่วไป หมายความว่าข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ข้อมูลด้านการทำธุรกิจ หมายความว่าหรือสิ่งใดๆที่แสดงออกมาในรูปแบบเอกสาร สัญญา ใบยินยอม แฟ้มรายงาน หนังสือ แผนผัง แผนที่ ภาพวาด ภาพถ่าย ฟิล์ม การบันทึกภาพนิ่ง การบันทึกภาพเคลื่อนไหวหรือเสียงการบันทึกโดยเครื่องมือทางอิเลคทรอนิกส์ หรือวิธีอื่นใดที่ทำให้สิ่งที่บันทึกไว้ปรากฏขึ้นในเรื่องที่เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของบุคคลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้  ดังรายละเอียดดังต่อไปนี้

ลูกค้าบุคคลธรรมดา

1)          ข้อมูลรายละเอียดส่วนตัว เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ-นามสกุล เพศ วันเกิด อายุ น้ำหนัก ส่วนสูง หมู่เลือด สัญชาติ ประเทศที่เกิด ลายมือชื่อ สถานภาพครอบครัว สถานภาพการสมรส จำนวนบุตร ข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารที่หน่วยงานราชการออกให้ (เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง เป็นต้น) เทปบันทึกเสียงการสนทนาทางโทรศัพท์ ข้อมูลที่บันทึกจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด

2)          ข้อมูลการศึกษา เช่น ประวัติการศึกษา วุฒิการศึกษา

3)          ข้อมูลการทำงาน เช่น อาชีพ ตำแหน่ง รายละเอียดงาน ประเภทของธุรกิจ ประเภทขององค์กรทำงาน อายุการทำงาน สถานที่ทำงาน ข้อมูลประกันสังคม ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในเอกสารที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ เช่น เอกสารประกอบการธุรกิจ ทะเบียนการค้า ภพ.20 หนังสือรับรองธุรกิจ และเอกสารการเสียภาษีนิติบุคคล

4)          ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ไปรษณีย์ตามบัตรประจำตัวประชาชน หรือทะเบียนบ้าน ที่อยู่ไปรษณีย์ปัจจุบัน ที่อยู่ไปรษณีย์ของที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรสาร ที่อยู่อีเมล LINE ID บัญชี Facebook

5)          ข้อมูลทางการเงิน เช่น ระดับรายได้ แหล่งที่มาของรายได้และเงินลงทุน ประเทศแหล่งที่มาของรายได้และเงินลงทุน หนังสือรับรองเงินเดือน รายการเดินบัญชี สลิปเงินเดือน ข้อมูลสถานภาพทางการเงิน ชื่อและเลขที่บัญชีบริษัท เลขที่บัตร ATM รหัสเข้าใช้บัตร ATM/เดบิต ข้อมูลสินเชื่อ เงินสำรอง หลักประกัน ภาระหนี้สิน หมายเลขบัตรเครดิต วันหมดอายุ วงเงิน ยอดหนี้ ประเภทของบัตรเครดิต ผลรวมเครดิต ข้อมูลเงินฝาก กองทุน หุ้น ทรัพย์สินปลอดภาระ ค่าใช้จ่าย จำนวนเงินถอนหรือใช้จ่าย ต่อวัน ข้อมูลเครดิต ข้อมูลสถานะการเป็นบุคคลล้มละลาย

6)          ข้อมูลที่เกี่ยวกับการให้บริการแก่ท่าน เช่น ประเภทผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ท่านเลือก รายละเอียดตามใบคำขอสมัครใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัท ข้อมูลในเอกสารประกอบการพิจารณาวงเงิน ข้อมูลในเอกสารประกอบการขอสินเชื่อ ข้อมูลเอกสารแนบบริการด้านโอนเงิน ข้อมูลหลักประกัน ข้อมูลที่สร้างขึ้นสำหรับใช้ภายในบริษัท ข้อมูลเอกสารด้านประกันภัย รายละเอียดเบี้ยประกัน ประวัติการเอาประกันจากบริษัทประกัน ประวัติการเอาประกันจากบริษัทประกันอื่น ข้อมูลความจำเป็นในการเอาเบี้ยประกันในชีวิตประจำวัน อัตราส่วนการเป็นเจ้าของบัญชี ข้อมูลการจัดชั้น ข้อมูลการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ประวัติการชำระหนี้และดอกเบี้ย ข้อมูลการเปิดบัญชีธุรกรรม จุดประสงค์ในการลงทุน จำนวนกองทุนที่ถือชื่อกองทุน เลขผู้ถือหน่วยลงทุน การหักภาษี ณ ที่จ่าย ความสัมพันธ์ต่อพนักงานของบริษัทหรือต่อบริษัทอื่น ๆ ข้อมูลในหนังสือมอบอำนาจ

7)          ข้อมูลทางธุรกรรม เช่น รายละเอียดการทำธุรกรรมถึงท่านและจากท่าน วันที่ และ/หรือ เวลาที่โอนเงินหรือกำหนดชำระเงิน วิธีการชำระเงินและการรับเงิน จำนวนเงินที่ทำธุรกรรม จำนวนเงินสุทธิที่ได้รับ ข้อมูลการโอนเงิน เลขที่เช็ค เหตุผลในการทำธุรกรรม ข้อมูลทางธุรกรรมของผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท

8)          รายละเอียดด้านพฤติกรรม เช่น รายละเอียดเกี่ยวกับพฤติกรรม การดำรงชีวิต ทัศนคติ ข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิสัมพันธ์อื่น ๆ และข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินการของท่านกับผลิตภัณฑ์หรือบริการ ผลตอบรับและความคิดเห็นของท่านต่อประเภทผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ท่านได้รับ รายละเอียดในการเรียกร้องสิทธิ และ การร้องเรียนของท่าน

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวที่มีการเก็บรวบรวม

บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ได้แก่

1) ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ลายนิ้วมือ ระบบการจดจำใบหน้า ข้อมูลภาพถ่ายจำลองใบหน้า)

2) ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวตามที่ปรากฏในเอกสารระบุตัวตน (เช่น ศาสนา เชื้อชาติ)  บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านเท่านั้นหรือตามที่กฎหมายอนุญาต

3. ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สาม

หากท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามแก่บริษัท เช่น ผู้ค้ำประกัน ผู้บริหารระดับสูง ผู้มีอำนาจ ผู้ได้รับมอบอำนาจ กรรมการ ผู้ถือหุ้น พนักงาน ลูกจ้าง ผู้ก่อตั้งทรัสต์และทรัสตี ตัวแทน บุคคลที่อยู่ในสายการควบคุมหรือการเป็นเจ้าของ เจ้าของร่วม และบุคคลท่านอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ลูกค้าของบริษัท และบุคคลอื่นใดที่ท่านมีความสัมพันธ์ด้วยอันเกี่ยวเนื่องกับความสัมพันธ์ที่ท่านมีกับบริษัท โดยให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวแก่บริษัท เช่น ชื่อ นามสกุล รายละเอียดที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์สำหรับการติดต่อฉุกเฉินและการทวงถามหนี้ และรายได้ของสมาชิกในครอบครัว โปรดแจ้งนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้แก่บุคคลที่สามดังกล่าวเพื่อให้รับทราบนโยบายฯ และขอความยินยอมหากจำเป็น หรือมีฐานทางกฎหมายอื่นในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามมายังบริษัทด้วย

 

4. ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ไร้ความสามารถ

บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับผู้เยาว์ บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ และบุคคลไร้ความสามารถเมื่อได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองเท่านั้น บริษัทไม่มีเจตนาที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลที่อายุต่ำกว่า 20 ปีโดยไม่มีความยินยอมของผู้ปกครองตามที่กฎหมายกำหนด หรือจากบุคคลเสมือนไร้ความสามารถและบุคคลไร้ความสามารถโดยไม่มีความยินยอมของผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาล ตามกฎหมาย แล้วแต่กรณี ในกรณีที่บริษัททราบว่าบริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลใดที่อายุน้อยกว่า 20 ปีโดยไม่มีความยินยอมของผู้ปกครองตามที่กฎหมายกำหนด หรือจากบุคคลเสมือนไร้ความสามารถและบุคคลไร้ความสามารถโดยไม่มีความยินยอมของผู้พิทักษ์หรือผู้อนุบาล ตามกฎหมาย แล้วแต่กรณี โดยไม่ได้ตั้งใจ บริษัทจะลบข้อมูลส่วนบุคคลนั้นทันทีหรือจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะกรณีที่มีฐานทางกฎหมายอื่นที่นอกเหนือจากความยินยอม หรือตามที่กฎหมายอนุญาต

 

2. บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ใด

 

บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว เพื่อวัตถุประสงค์ต่อไปนี้

2.1 วัตถุประสงค์ที่อาศัยความยินยอมของท่าน

(1)        การตลาดและการสื่อสาร: เพื่อดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการตลาดและการสื่อสาร การโฆษณาทางการตลาด การขาย ข้อเสนอพิเศษ ข่าวสาร ประชาสัมพันธ์ โปรโมชั่นและการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการของกลุ่มธุรกิจทางการเงิน และนิติบุคคลอื่น โดยไม่สามารถพิจารณาให้ตั้งอยู่บนฐานทางกฎหมายอื่นๆได้

(2)        ธุรกิจวิเคราะห์ข้อมูล: เพื่อใช้ในธุรกิจวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคล (data analytics business) ของบริษัท กลุ่มธุรกิจทางการเงิน บริษัทในเครือของบริษัทพันธมิตรทางธุรกิจ และนิติบุคคลอื่น

(3)        ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว

1)          บริษัทอาจใช้ข้อมูลที่อ่อนไหวของท่านเพื่อจุดประสงค์ดังต่อไปนี้

1)          ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ลายนิ้วมือ ระบบการจดจำใบหน้า ข้อมูลภาพถ่ายจำลองใบหน้า) เพื่อการทำการพิสูจน์ตัวตน และเพื่อการยืนยันตัวบุคคล รวมถึงการให้บริการแก่ท่าน

2)          ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวตามที่ปรากฏในเอกสารระบุตัวตน (เช่น ศาสนา เชื้อชาติ) เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของท่าน

 

2.2 วัตถุประสงค์ต่างๆ และฐานทางกฎหมายอื่นๆ สำหรับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยอาศัยฐานทางกฎหมายว่าด้วยประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ฐานการเข้าทำและการปฏิบัติตามสัญญา ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือฐานทางกฎหมายอื่น ๆ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอนุญาต แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับท่าน เช่น ท่านใช้บริการใดของบริษัท เพื่อวัตถุประสงค์ต่อไปนี้

(1)        เพื่อการลงทะเบียนและการยืนยันตัวตน เช่น เพื่อลงทะเบียนผลิตภัณฑ์หรือบริการแก่ท่าน พิสูจน์ ระบุ และยืนยันท่านหรือตัวตนของท่าน

 

(2)        เพื่อจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการและบริหารงานลูกค้าสัมพันธ์ เช่น เพื่อเข้าทำข้อตกลงหรือสัญญาใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการและจัดการความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นกับท่าน เพื่อพิจารณาคุณสมบัติของท่าน (เช่น ตรวจสอบสถานะการเป็นบุคคลล้มละลาย เพื่อวิเคราะห์สถานะของกิจการของท่านและบุคคลที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น) เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกรรมและกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการแก่ท่าน เพื่อพิจารณาอนุมัติการมอบผลิตภัณฑ์หรือให้บริการต่าง ๆ เพื่อส่งมอบรายละเอียดของข้อตกลงหรือสัญญา ผลิตภัณฑ์หรือบริการ ธุรกรรมทางการเงิน และบริการที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงิน ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบ การยืนยัน และการยกเลิกธุรกรรม เพื่อรับ/ส่งจดหมาย พัสดุ และเอกสารสำคัญถึงท่าน เพื่อจัดทำรายงานแจ้งลูกค้าสำหรับข้อมูลที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการ เพื่อส่งมอบข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อรายงานสภาพหนี้ ติดตามทวงถามหนี้ และการจัดชั้นลูกหนี้ เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร และความถูกต้องของหลักประกัน วงเงิน ดอกเบี้ย ระยะเวลาที่ขอชำระ เพื่อประมวลผลการชำระเงิน การทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับบัญชี การจัดทำบัญชีและงบดุล ตรวจสอบความถูกต้องของการลงบัญชี เพื่อประเมินผลประโยชน์ทับซ้อน ให้บริการจัดการหรือการดำเนินธุรกรรมหลังการขาย เพื่อจัดสรรและยกเลิกกิจกรรมที่ไม่มีการเคลื่อนไหว (เช่น ทำการยกเลิกการให้บริการ หรือยกเลิกบัญชีของท่าน)

(3)        เพื่อสร้างความประทับใจด้วยบริการหลังการขาย เช่น เพื่อติดต่อสื่อสารกับท่านเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการที่ท่านได้รับจากบริษัท ภายในกลุ่มบริษัทในเครือ บริษัทย่อย หรือจากพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท เพื่อประมวลผลและอัปเดตข้อมูลของท่านในฐานะลูกค้าของบริษัท เพื่อให้คาปรึกษา คำแนะนำ และอำนวยความสะดวกให้แก่ท่านในการใช้ผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อจัดการกับคำถามที่เกี่ยวข้องกับการบริการลูกค้า คำขอ คำติชม การร้องเรียน การเรียกร้องประกัน เพื่อจัดการกับปัญหาทางเทคนิค เพื่อแจ้งและให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาแก่ท่าน เพื่อดำเนินกิจกรรมด้านการจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า

(4)        เพื่อการตลาด การส่งเสริมการขาย และการสื่อสาร เช่น เพื่อดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการตลาดและการสื่อสาร การโฆษณาทางการตลาด การขาย ข้อเสนอพิเศษ ข่าวสาร ประชาสัมพันธ์ โปรโมชันและการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการของกลุ่มธุรกิจทางการเงิน บริษัทในเครือของบริษัทพันธมิตรทางธุรกิจ และนิติบุคคลอื่น ตามที่ท่านได้ระบุความต้องการของท่านไว้หรือเคยได้ใช้บริการมาก่อน รวมถึง ข้อมูลผลิตภัณฑ์และบริการที่ใกล้เคียงกับความสนใจและประวัติการรับผลิตภัณฑ์และบริการ ทั้งทางตรงและทางอ้อม เพื่อให้ท่านสามารถเข้าร่วมการเสนอการขาย ข้อเสนอและสิทธิพิเศษ แคมเปญ งานกิจกรรม งานสัมมนา การจัดให้มีการแข่งขัน การชิงโชค การชิงรางวัล การตั้งบูธและอีเว้นต์ร่วมกับสาขาเพื่อพบปะกับท่าน รวมถึงการส่งเสริมการขายอื่น ๆ และบริการโฆษณาที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ท่านในการเข้าร่วมงานกิจกรรมของบริษัท

(5)        เพื่อการค้นหาและแนะนำผลิตภัณฑ์และบริการที่เหมาะสม เช่น เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์และบริการที่ท่านอาจจะสนใจ ทราบถึงความต้องการของท่าน และปรับผลิตภัณฑ์และบริการให้เหมาะสมกับท่าน

(6)        เพื่อปรับปรุงการดำเนินธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ และบริการ เช่น เพื่อประเมิน วิจัยการตลาด วิเคราะห์ จัดทำแบบจำลองและพัฒนาบริการ ผลิตภัณฑ์ การจัดจำหน่าย ระบบ โครงสร้างในเชิงภูมิศาสตร์ และการดำเนินธุรกิจเพื่อท่านและลูกค้าของบริษัททั้งหมดและภายในกลุ่มบริษัทซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท เพื่อออกกลยุทธ์และแคมเปญผลิตภัณฑ์ของบริษัทให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า เพื่อกำหนดประสิทธิภาพของแคมเปญส่งเสริมการขายของบริษัท เพื่อจัดทำรายงานเชิงภาพรวม เพื่อดำเนินโปรแกรมการฝึกอบรมสำหรับพนักงาน เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของธุรกิจและเพื่อปรับเนื้อหาของบริษัทให้เหมาะกับความชอบของลูกค้าของบริษัทได้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้เห็นและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการที่มีอยู่

(7)        เพื่อเรียนรู้ความต้องการ และสามารถตอบสนองให้เกิดความพึงพอใจ เช่น เพื่อทราบข้อมูลมากขึ้นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการที่ท่านได้รับ และผลิตภัณฑ์และบริการอื่นที่ท่านอาจสนใจ รวมถึงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตัวอย่างเช่น ด้วยการพิจารณาประเภทของผลิตภัณฑ์และบริการที่ท่านใช้จากบริษัท ท่านต้องการให้บริษัทติดต่อท่านอย่างไรฯลฯ เพื่อทราบข้อมูลจากการสำรวจความพึงพอใจในการใช้บริการของบริษัทและการประเมินเครดิตลูกค้า

(8)        เพื่อบริหารจัดการเว็บไซต์ แอปพลิเคชันมือถือ และแพลตฟอร์ม เช่น เพื่อบริหารจัดการ ดำเนินการ ติดตาม ตรวจสอบ และจัดการเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และแพลตฟอร์มของบริษัทเพื่ออำนวยความสะดวกและให้แน่ใจว่าสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ทำงานได้อย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพ และปลอดภัย เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานเว็บไซต์และแพลตฟอร์มของบริษัท เพื่อปรับปรุงการจัดวางรูปแบบ และปรับปรุงเนื้อหาของเว็บไซต์และแพลตฟอร์มของบริษัทเพื่อการให้บริการแก่ท่าน

(9)        เพื่อจัดการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดการธุรกิจของบริษัท รวมถึงเพื่อการดำเนินงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดการระบบการสื่อสาร การรักษาความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และการตรวจสอบความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดการธุรกิจเพื่อการปฏิบัติตามข้อกำหนด นโยบาย และกระบวนการภายใน

(10)    เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย กระบวนการทางกฎหมาย หรือคำสั่งของหน่วยงานรัฐ ซึ่งรวมถึงคำสั่งของหน่วยงานรัฐนอกประเทศไทย และ/หรือ ให้ความร่วมมือกับศาล ผู้มีอำนาจ หน่วยงานของรัฐบาล และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเมื่อบริษัทมีเหตุผลให้เชื่อว่ากฎหมายกำหนดให้บริษัทปฏิบัติดังกล่าวและหากจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย กระบวนการ หรือคำสั่งของรัฐบาล เพื่อให้และจัดการกับบริการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อออกใบกำกับภาษีหรือแบบยื่นภาษีฉบับเต็ม เพื่อบันทึกและตรวจสอบการติดต่อสื่อสาร เพื่อจัดการกับใบสั่งและภาษีถนน เพื่อแจ้งธุรกรรมต้องสงสัยต่อหน่วยงานด้านป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อเปิดเผยข้อมูลแก่หน่วยงานด้านภาษี ผู้บังคับใช้กฎหมายด้านบริการทางการเงิน และหน่วยงานรัฐและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่น ๆ และตรวจสอบหรือป้องกันอาชญากรรม

(11)    เพื่อปกป้องประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัท เช่น เพื่อรักษาความปลอดภัยและความถูกต้องของธุรกิจของบริษัทหรือบริษัทในเครือของบริษัท เพื่อใช้สิทธิของบริษัทและปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทหรือบริษัทในเครือของบริษัทเมื่อจำเป็นและชอบด้วยกฎหมาย ตัวอย่างเช่น เพื่อตรวจสอบ ป้องกัน และตอบสนองต่อข้อร้องเรียนเรื่องเกี่ยวกับการทุจริต ข้อร้องเรียนเรื่องการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา หรือการละเมิดกฎหมาย เพื่อจัดการและป้องกันการสูญเสียทรัพย์สิน เพื่อดูแลให้มีการปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของบริษัท เพื่อตรวจสอบและป้องกันการกระทำผิดภายในสถานที่ของบริษัท ซึ่งรวมถึง การใช้งานกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เพื่อติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อป้องกันและรายงานอาชญากรรมที่เกิดขึ้นหรืออาจจะเกิดขึ้น เพื่อดำเนินการบริหาร การจัดทำรายงาน นโยบายภายในตามขอบเขตในการปฏิบัติงานของบริษัท

(12)    เพื่อตรวจสอบและป้องกันความเสี่ยงทางธุรกิจต่อบริษัท เช่น เพื่อพิสูจน์ตัวตนของท่าน เพื่อตรวจสอบว่ามีการปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบอื่น ๆ (เช่น เพื่อปฏิบัติตามกฎด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และป้องกันการทุจริต) รวมถึงการทำการตรวจสอบและบันทึกเป็นการภายใน การจัดการทรัพย์สิน ฐานข้อมูลด้านความเสี่ยงทางธุรกิจต่อบริษัท ระบบ และการควบคุมธุรกิจอื่น ๆ

(13)    เพื่อบริหารความเสี่ยง เช่น เพื่อเสนอจัดการความเสี่ยง ตรวจสอบประสิทธิภาพ และประเมินความเสี่ยง เพื่อจัดตั้งดัชนีชี้วัดความเสี่ยง จัดทำการสรุปข้อมูลสำหรับการบริหารความเสี่ยง เพื่อวิเคราะห์และคาดเดาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงวิธีการรับมือ เพื่อประเมินความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์ และแนะนำหากต้องมีการเปลี่ยนแปลงและหาวิธีการใด ๆ ในการจัดการความเสี่ยง

(14)    เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการเกี่ยวกับธุรกรรมองค์กร เช่น ในกรณีของการขาย การโอน การรวบรวม การฟื้นฟูกิจการ หรือกรณีอื่นที่คล้ายกัน บริษัทอาจโอนข้อมูลของท่านให้กับบุคคลที่สามหนึ่งฝ่ายหรือมากกว่าในฐานะส่วนหนึ่งของการดำเนินการดังกล่าว

(15)    เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล ทั้งนี้ หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัท อาจส่งผลกระทบต่อท่าน เช่น บริษัทไม่อาจดำเนินการตามที่ท่านร้องขอได้ ท่านอาจไม่ได้รับความสะดวก หรือไม่ได้รับการปฏิบัติตามสัญญาและท่านอาจได้รับความเสียหายหรือเสียโอกาส นอกจากนี้ การที่ท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติตามกฎหมายใด ๆ ที่บริษัทหรือท่านต้องปฏิบัติตาม และอาจมีบทกำหนดโทษที่เกี่ยวข้อง

 

2.3 การจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวที่บริษัทเก็บไว้ก่อนวันที่ 1 มิถุนายน 2564

หากท่านเป็นลูกค้าเดิมของบริษัทก่อนวันที่ 1 มิถุนายน 2564 บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ได้แก่ (1) ความพิการ (2) ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวสำหรับผลิตภัณฑ์ประกันภัย (เช่น ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ศาสนา เชื้อชาติ ประวัติอาชญากรรม) (3) เชื้อชาติ (4) ศาสนา ต่อไป ทั้งนี้เพื่อการเก็บหลักฐานเอกสารเท่านั้น โดยบริษัทจะไม่นำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น และจะทยอยทำลายเอกสาร ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ต่อไป

 

3. บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ใครบ้าง

บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลที่สามต่อไปนี้ ซึ่งเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ บุคคลที่สามเหล่านี้อาจอยู่ในประเทศไทยหรือนอกประเทศไทยก็ได้ ท่านสามารถดูนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลเหล่านี้เพื่อทราบรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีที่บุคคลเหล่านี้เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เนื่องจากท่านคือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลที่สามดังกล่าว

3.1. บริษัทในเครือ

บริษัทอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับบุคคลอื่นเพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุในข้อ 2 ด้านบนแก่ กลุ่มธุรกิจทางการเงินของบริษัท และบริษัทในเครือของบริษัท การเปิดเผยข้อมูลให้กับกลุ่มธุรกิจทางการเงินและบริษัทในเครือดังกล่าว จะทำให้บริษัทอื่น ๆ เหล่านั้น ภายในกลุ่มสามารถใช้ความยินยอมที่บริษัทได้มา

3.2. ผู้ให้บริการของบริษัท

บริษัทอาจใช้บริการบริษัท ตัวแทน หรือผู้รับจ้างอื่นเพื่อให้บริการต่าง ๆ แทนบริษัทหรือเพื่อช่วยในการจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่ท่าน บริษัทอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้ให้บริการหรือผู้จัดหาผลิตภัณฑ์บริการจากภายนอก ซึ่งรวมถึง แต่ไม่จำกัดเฉพาะ (1) ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ซอฟต์แวร์ นักพัฒนาเว็บไซต์ สื่อดิจิทัล ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและบริษัท ผู้ให้บริการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (2) ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์และการขนส่ง (3) ผู้ให้บริการด้านการชำระเงินและระบบการชำระเงิน (4) บริษัทที่ให้บริการด้านการวิจัย (5) บริษัทที่ให้บริการด้านการวิเคราะห์ (6) บริษัทที่ให้บริการด้านการสำรวจ (7) ผู้ตรวจสอบบัญชี (8) ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า (9) บริษัทที่ให้บริการด้านการตลาด สื่อโฆษณา การออกแบบ การสร้างสรรค์ และการสื่อสาร (10) บริษัทที่ให้บริการด้านแคมเปญ งานกิจกรรม การจัดงานด้านการตลาด และการบริหารลูกค้าสัมพันธ์ (11) ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมและการสื่อสาร (12) ผู้ให้บริการด้านธุรการจากภายนอก (13) ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูลและบริการคลาวด์ (14) ผู้ให้บริการด้านการพิมพ์ (15) ทนายความ ที่ปรึกษาทางกฎหมาย เพื่อประโยชน์ของบริษัท รวมถึง การใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายและต่อสู้สิทธิเรียกร้องในทางกฎหมาย ผู้ตรวจสอบบัญชีและ/หรือผู้ประกอบวิชาชีพอื่น ๆ ในการช่วยเหลือการดำเนินธุรกิจของบริษัท (16) ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บและ/หรือทำลายเอกสาร และ/หรือ (17) ผู้ให้บริการติดตามทวงถามหนี้ ในระหว่างการให้บริการดังกล่าว ผู้ให้บริการอาจมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อย่างไรก็ตาม บริษัทจะให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่ผู้ให้บริการเท่าที่จำเป็นต่อการให้บริการเท่านั้น และบริษัทจะขอให้ผู้ให้บริการไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ บริษัทจะดำเนินการให้แน่ใจว่าผู้ให้บริการที่บริษัททำงานด้วยรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด

 

3.3. พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท

บริษัทอาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทเพื่อดำเนินธุรกิจและให้บริการแก่ลูกค้าของบริษัทและกลุ่มลูกค้าที่มีแนวโน้มในการใช้บริการจากบริษัท รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ บริษัทที่ออกบัตร บริษัทที่คีย์ข้อมูล บริษัทบัตรเครดิต บริษัทที่ให้บริการรับชำระค่าผลิตภัณฑ์และบริการ บริษัทที่ให้บริการด้านการวิเคราะห์ ผู้ให้บริการด้านการสำรวจวิจัยการตลาด ผู้ให้บริการการทำธุรกรรมทางการเงิน โครงการอสังหาริมทรัพย์ การไฟฟ้า และ ผู้สนับสนุนอื่น ๆ

3.4. บุคคลภายนอกที่กฎหมายกำหนด

ในบางกรณี บริษัทอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย รวมถึงคำสั่งที่ออกตามกฎหมาย ซึ่งรวมถึงหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ศาล กรมบังคับคดี ผู้มีอำนาจ หน่วยงานรัฐบาล หรือบุคคลอื่นหากบริษัทเชื่อว่ามีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อปกป้องสิทธิของบริษัท สิทธิของบุคคลที่สาม หรือเพื่อความปลอดภัยของบุคคล หรือเพื่อตรวจสอบ ป้องกัน หรือแก้ไขปัญหาการทุจริต ความมั่นคง ความปลอดภัย รวมทั้งความเสี่ยงอื่นใด

3.5. สมาคมและชมรม

ในบางกรณี บริษัทอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่สถาบัน สมาคม หรือชมรมที่เกี่ยวข้อง เช่น ชมรมป้องกันและปราบปรามการทุจริต (Fraud Association) รวมถึงสมาคมบริษัทไทย เพื่อปกป้องสิทธิของบริษัท สิทธิของบุคคลที่สาม เพื่อความปลอดภัยของบุคคล หรือเพื่อตรวจสอบ ป้องกัน หรือแก้ไขปัญหาการทุจริต ความมั่นคง ความปลอดภัย รวมทั้งความเสี่ยงอื่นใด

3.6. ผู้รับโอนสิทธิ และ/หรือ หน้าที่

ในกรณีของการฟื้นฟูกิจการ การรวบรวมกิจการ การโอนธุรกิจไม่ว่าทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง การขาย การซื้อ การดำเนินกิจการร่วมค้า การมอบ การโอน หรือการจำหน่ายส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของธุรกิจ ทรัพย์สิน หุ้น หรือธุรกรรมอื่นที่คล้ายกัน บริษัทย่อมมีความจำเป็นที่จะต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลที่สามที่ได้รับการโอนหรือที่ประสงค์จะรับโอนสิทธิของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการให้บุคคลดังกล่าวต้องปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เมื่อมีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยและ/หรือโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

3.7. บุคคลภายนอก

บริษัทอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานทางกฎหมายตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ แก่บุคคลภายนอกอื่น ๆ เช่น บริษัทตัวแทน บริษัทคู่ค้า และบริษัทอื่น ๆ ลูกค้าท่านอื่น บุคคลอื่นที่มีการอ้างอิงตามกฎหมาย เป็นต้น แล้วแต่กรณี

 

3. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

1           ข้อมูลจากเจ้าของโดยตรง

ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลด้านการเงิน ที่ลูกค้าได้ให้ไว้ขณะที่ขอยื่นกู้ โดยให้ข้อมูลในใบสัญญากู้ ใบยินยอม ใบค้ำประกัน รวมถึงเอกสารประกอบและข้อมูลการสื่อสารต่างๆ เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน คำร้องต่างๆ ฯลฯ ที่ลูกค้าได้มอบให้บริษัท หรือเจ้าหน้าที่ของบริษัท ในรูปแบบหนังสือ หรือวิธีการทางอิเลคทรอนิกส์

1.2      ข้อมูลส่วนบุคคลที่ลูกค้าให้ไว้ในการติดต่อ สื่อสารทางอิเลคทรอนิกส์ หรือกิจกรรมต่างๆของบริษัท

2. ข้อมูลจากแหล่งอื่น

                    2.1 ข้อมูลสาธารณะ ข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ

                    2.2 ข้อมูลที่ได้รับจากบริษัทในเครือกิจการหรือเครือธุรกิจเดียวกัน หรือพันธมิตรทางธุรกิจ

                    2.3 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ลูกค้า ผู้แทนจำหน่าย ผู้รับผลประโยชน์ ผู้รับมรดก ผู้ทำการซื้อสินค้า หรือบริการหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องที่ทำธุรกรรมต่างๆกับบริษัท เช่น การเรียกร้องจากคำร้องต่างๆ เป็นต้น

4. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

                    บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้โดยมีระยะเวลาเท่าที่จำเป็นต่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้รับข้อมูลดังกล่าวมา ทั้งนี้ เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย บริษัทอาจต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานขึ้นหากกฎหมายกำหนด

5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

                    บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลที่สามต่อไปนี้ ซึ่งเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ บุคคลที่สามเหล่านี้อาจอยู่ในประเทศไทยหรือนอกประเทศไทยก็ได้ ท่านสามารถดูนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลเหล่านี้เพื่อทราบรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีที่บุคคลเหล่านี้เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เนื่องจากท่านคือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลที่สามดังกล่าว

5.1. บริษัทในเครือ

บริษัทอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับบุคคลอื่นเพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุในข้อ 2 ด้านบนแก่ กลุ่มธุรกิจทางการเงินของบริษัท และบริษัทในเครือของบริษัท การเปิดเผยข้อมูลให้กับกลุ่มธุรกิจทางการเงินและบริษัทในเครือดังกล่าว จะทำให้บริษัทอื่น ๆ เหล่านั้น ภายในกลุ่มสามารถใช้ความยินยอมที่บริษัทได้มา

 

5.2. ผู้ให้บริการของบริษัท

บริษัทอาจใช้บริการบริษัท ตัวแทน หรือผู้รับจ้างอื่นเพื่อให้บริการต่าง ๆ แทนบริษัทหรือเพื่อช่วยในการจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่ท่าน บริษัทอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้ให้บริการหรือผู้จัดหาผลิตภัณฑ์บริการจากภายนอก ซึ่งรวมถึง แต่ไม่จำกัดเฉพาะ (1) ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ซอฟต์แวร์ นักพัฒนาเว็บไซต์ สื่อดิจิทัล ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและบริษัท ผู้ให้บริการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (2) ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์และการขนส่ง (3) ผู้ให้บริการด้านการชำระเงินและระบบการชำระเงิน (4) บริษัทที่ให้บริการด้านการวิจัย (5) บริษัทที่ให้บริการด้านการวิเคราะห์ (6) บริษัทที่ให้บริการด้านการสำรวจ (7) ผู้ตรวจสอบบัญชี (8) ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า (9) บริษัทที่ให้บริการด้านการตลาด สื่อโฆษณา การออกแบบ การสร้างสรรค์ และการสื่อสาร (10) บริษัทที่ให้บริการด้านแคมเปญ งานกิจกรรม การจัดงานด้านการตลาด และการบริหารลูกค้าสัมพันธ์ (11) ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมและการสื่อสาร (12) ผู้ให้บริการด้านธุรการจากภายนอก (13) ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บข้อมูลและบริการคลาวด์ (14) ผู้ให้บริการด้านการพิมพ์ (15) ทนายความ ที่ปรึกษาทางกฎหมาย เพื่อประโยชน์ของบริษัท รวมถึง การใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายและต่อสู้สิทธิเรียกร้องในทางกฎหมาย ผู้ตรวจสอบบัญชีและ/หรือผู้ประกอบวิชาชีพอื่น ๆ ในการช่วยเหลือการดำเนินธุรกิจของบริษัท (16) ผู้ให้บริการด้านการจัดเก็บและ/หรือทำลายเอกสาร และ/หรือ (17) ผู้ให้บริการติดตามทวงถามหนี้

ในระหว่างการให้บริการดังกล่าว ผู้ให้บริการอาจมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อย่างไรก็ตาม บริษัทจะให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่ผู้ให้บริการเท่าที่จำเป็นต่อการให้บริการเท่านั้น และบริษัทจะขอให้ผู้ให้บริการไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ บริษัทจะดำเนินการให้แน่ใจว่าผู้ให้บริการที่บริษัททำงานด้วยรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด

5.3. พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท

บริษัทอาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทเพื่อดำเนินธุรกิจและให้บริการแก่ลูกค้าของบริษัทและกลุ่มลูกค้าที่มีแนวโน้มในการใช้บริการจากบริษัท รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ บริษัทที่ออกบัตร บริษัทที่คีย์ข้อมูล บริษัทบัตรเครดิต บริษัทที่ให้บริการรับชำระค่าผลิตภัณฑ์และบริการ บริษัทที่ให้บริการด้านการวิเคราะห์ ผู้ให้บริการด้านการสำรวจวิจัยการตลาด ผู้ให้บริการการทำธุรกรรมทางการเงิน โครงการอสังหาริมทรัพย์ การไฟฟ้า และ ผู้สนับสนุนอื่น ๆ

5.4. บุคคลภายนอกที่กฎหมายกำหนด

ในบางกรณี บริษัทอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย รวมถึงคำสั่งที่ออกตามกฎหมาย ซึ่งรวมถึงหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ศาล กรมบังคับคดี ผู้มีอำนาจ หน่วยงานรัฐบาล หรือบุคคลอื่นหากบริษัทเชื่อว่ามีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อปกป้องสิทธิของบริษัท สิทธิของบุคคลที่สาม หรือเพื่อความปลอดภัยของบุคคล หรือเพื่อตรวจสอบ ป้องกัน หรือแก้ไขปัญหาการทุจริต ความมั่นคง ความปลอดภัย รวมทั้งความเสี่ยงอื่นใด

5.5. สมาคมและชมรม

ในบางกรณี บริษัทอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่สถาบัน สมาคม หรือชมรมที่เกี่ยวข้อง เช่น ชมรมป้องกันและปราบปรามการทุจริต (Fraud Association) รวมถึงสมาคมบริษัทไทย เพื่อปกป้องสิทธิของบริษัท สิทธิของบุคคลที่สาม เพื่อความปลอดภัยของบุคคล หรือเพื่อตรวจสอบ ป้องกัน หรือแก้ไขปัญหาการทุจริต ความมั่นคง ความปลอดภัย รวมทั้งความเสี่ยงอื่นใด

5.6. ผู้รับโอนสิทธิ และ/หรือ หน้าที่

ในกรณีของการฟื้นฟูกิจการ การรวบรวมกิจการ การโอนธุรกิจไม่ว่าทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง การขาย การซื้อ การดำเนินกิจการร่วมค้า การมอบ การโอน หรือการจำหน่วยส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของธุรกิจ ทรัพย์สิน หุ้น หรือธุรกรรมอื่นที่คล้ายกัน บริษัทย่อมมีความจำเป็นที่จะต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลที่สามที่ได้รับการโอนหรือที่ประสงค์จะรับโอนสิทธิของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการให้บุคคลดังกล่าวต้องปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เมื่อมีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยและ/หรือโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

5.7. บุคคลภายนอก

บริษัทอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานทางกฎหมายตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ แก่บุคคลภายนอกอื่น ๆ เช่น บริษัทตัวแทน บริษัทคู่ค้า และบริษัทอื่น ๆ ลูกค้าท่านอื่น บุคคลอื่นที่มีการอ้างอิงตามกฎหมาย เป็นต้น แล้วแต่กรณี

 

6. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

                    เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิ ดังนี้

1.      ขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน ซึ่งอยู่ในความผิดชอบของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ตนไม่ได้ให้ความยินยอม

2.      แจ้งให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลต้องดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

3.      ขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนจากผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ

4.      คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน ที่กฎหมายอนุญาตให้เก็บได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล เมื่อใดก็ได้

5.      ขอให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลดำเนินการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีที่กฎหมายกำหนด

6.      ขอให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีที่กฎหมายกำหนด

7.      ถอนความยินยอมเสียเมื่อใดก็ได้ภายใต้ข้อกำหนดในข้อ8

8.      ร้องเรียนในกรณีที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

7  ผลการเพิกถอนความยินยอม

                    เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจเพิกถอนความยินยอมให้บริษัทเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวข้างต้น โดยแจ้งให้บริษัททราบและบริษัทอาจขอทราบถึงเหตุผลแห่งการนั้น

                    การเพิกถอนความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ยินยอมไปแล้วก่อนหน้านั้น

                    ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลประสงค์ที่จะเพิกถอนความยินยอม ให้บริษัทเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล จะมีผลกระทบต่อผู้เพิกถอนการให้ความยินยอมเกี่ยวกับการพิจารณารับผลประโยชน์ตอบแทนตามแผนการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทน หรือการบริการใดๆที่เกี่ยวข้องกับแผนการจ่าย และส่งผลให้บริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาได้

 

8.  ช่องทางการติดต่อ

                    เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถติดต่อบริษัทตามช่องทาง ดังนี้

                    บริษัท เอื้ออาทรการเกษตร จำกัด (สำนักงานใหญ่)  เลขที่ 1 ถนนนาเชือก-บรบือ  ตำบลนาเชือก  อำเภอนาเชือก  จังหวัดมหาสารคาม  44170 โทร. 043-779145, 088-2542202